-
-
ประวัติพระยาพิชัยดาบหัก
-
ทุกยุคทุกสมัย
ประเทศที่มีความแข็มแข็งมั่นคง
ประเทศนั้นจะต้องมีทหารที่เกิดมาร่วมบารมีของกษัตริย์ผู้มีบุญญาธิการ
เพื่อจะมาช่วยแบ่งเบาพระราชกิจในการทำสงคราม
ในสมัยโบราณ
เพราะชาติใดมีทหารที่เข้มแข็งในการทำศึก
ย่อมทำให้นานาประเทศนั้น
มีความหวั่นเกรง
เรียกว่า ขุนพลแก้ว
-
ในสมัยกรุงธนบุรี
ท่านพระยาพิชัยดับหักเป็นทหารเอกคู่พระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
คือ พระยาพิชัยดาบหัก
มีชื่อเดิมว่า จ้อย
เกิดในปี พ.ศ.
๒๒๘๔ ซึ่งมีอายุน้อยกว่าสมเด็จพระเจ้าตากสิน
๗ ปี (สมเด็จพระเจ้าตากสินพระราชสมภพในวันที่
๗ เมษายน พ.ศ. ๒๒๗๗
ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)
-
ประวัติพระยาพิชัยดาบหักนี้เรียบเรียงจากเค้าโครงเรื่องที่พระยาศรีสัชนาลัยบดี
อดีตเจ้าเมืองพิชัยสมัยหนึ่ง
ได้รวบรวมเรียบเรียงไว้
และเพิ่มเนื้อหาสาระขึ้นบ้างเท่าที่ค้นคว้าเพิ่มได้
-
ประวัติก่อนรับราชการ
-
จ้อยเกิดที่บ้านห้วยคำ
ที่ห่างจากแขวงเมืองพิชัย (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมืองอุตรดิตถ์)
ไปทางทิศตะวันออกประมาณ
๔ กิโลเมตร บิดามารดามีอาชีพกสิกรรม
แต่นามไม่ปรากฏ มีพี่น้อง ๔ คน
แต่เป็นไข้ทรพิษตายคราวเดียวกัน
๓ คน จึงเหลือจ้อยเพียงคนเดียว
-
เด็กชายจ้อยมีนิสัยชอบชกมวยมาก
จะเห็นได้จากเมื่ออายุ ๘
ขวบ บิดาให้ช่วยเลี้ยงควาย
เด็กชายจ้อยจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อน
ๆ ที่เลี้ยงควายด้วยกัน
จนหน้าตาฟกช้ำดำเขียวกลับบ้านเป็นประจำ
บิดาได้ตักเตือนสั่งสอนเรื่องการชกมวยว่าจะต้องเรียนหนังสือควบคู่กันไปด้วยจึงจะเก่งได้
-
ต่อมาบิดาได้นำไปฝากกับท่านพระครู
วัดมหาธาตุเมืองพิชัย (จนถึงอายุ
๑๔ ปี) จ้อยสามารถอ่านออกเขียนได้
จนแตกฉาน เพราะเป็นคนขยันและเอาใจใส่กับตำราเรียนคอยรับใช้อาจารย์
และซ้อมมวยไปด้วย การฝึกของเขา ก็คือ
การตัดต้นกล้วยตั้งไว้แล้วเตะเลี้ยงไม่ให้ต้นกล้วยล้มและเพิ่มความสูงของต้นกล้วยจนถึง
๔ ศอกกว่า และการฝึกใช้ศอกด้วยการเอามะนาวมัดแขวนไว้
๔
ลูกแล้วใช้ศอกให้มะนาวแกว่งไปมา
โดยมะนาวทั้ง ๔
ลูกไม่ถูกตัวเลย
เด็กชายจ้อยจะพยายามสอดส่องเอาใจใส่ใฝ่หาชื่อเสียงขอครูฝึกการชกมวยอยู่เสมอ
ถ้าครูคนใดมีชื่อเสียง
ก็จะจดจำเอาไว้ ถ้าวัดที่อยู่ข้างเคียงจัดงานฉลองมีการชกมวย
เขาจะเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด ได้มีนักมวยจากบ้านต่าง
ๆ เข้าแข่งขันกัน แต่เขาประทับใจการชกมวยจากค่ายบ้านท่าเสามากกว่า