ในปี พ.ศ. ๒๓๒๒ ได้โปรดฯ ให้ประชุมสงฆ์สอบถามว่าพระภิกษุจะกราบไหว้ฆราวาสที่บรรลุโสดาบันได้หรือไม่ พระสงฆ์ที่กลัวพระราชอาญาก็พากันถวายพระพรว่าได้ไปตาม ๆ กัน มีพระชั้นผู้ใหญ่ที่ปฏิเสธก็จะถูกพระราชอาญาเฆี่ยนหลังและถอดยศ ในสมัยตอนปลายกรุงธนบุรียังเกิดความวุ่นวายคอรัปชั่นขึ้นอีก คือ ข้าราชการทำการประจบสอพลอขึ้นเกือบทุกหนทุกแห่ง
ในเมืองอยุธยากรุงเก่าก็เกิดมีผู้สร้างอิทธิพลขึ้น โดยบังคับเก็บค่าภาคหลวงการขุดหาทรัพย์สมบัติที่มีคนฝังไว้ตั้งแต่ครั้งกรุงแตก แม้จะเป็นของตนเองก็ต้องเสียค่าขออนุญาตขุด กลุ่มอิทธิพลหรือกลุ่มทุจริตนี้มีขุนสุระนายบุญมาก ขุนแก้วเป็นหัวหน้า เมื่อมีกำลังมากจึงยึดอำนาจจากพระยาอินทรอภัย เจ้าเมืองอยุธยาได้ แล้วกดขี่ข่มเหงชิงเอาทรัพย์จากราษฎรทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นอย่างหนัก เจ้าเมืองอยุธยาหลบหนีเข้ากรุงธนบุรี เมื่อทราบการกบฏจลาจลเกิดขึ้นที่อยุธยา จึงโปรดฯ ให้พระยาสรรค์ (พี่ชายของขุนแก้ว) ยกกองทัพไปปราบ แต่พระยาสรรค์กลับไปเข้าเป็นพวกกับขุนสุระ นายบุญมาก และขุนแก้ว นำกองกำลังยกกลับน้อยมาตีกรุงธนบุรีแล้วบังคับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราชให้ผนวชอยู่ที่วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) พระยาสรรค์จึงกุมอำนาจกรุงธนบุรีไว้เป็นเวลาสองสัปดาห์ ในเวลาต่อมาได้คิดที่จะเป็นกษัตริย์แต่พรรคพวกหลายคนคัดค้านไม่เห็นด้วย
ก่อนที่จะเกิดความไม่สงบขึ้นในกรุงธนบุรีนั้น เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) ซึ่งต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็น สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยกกองทัพไปปราบจลาจลที่เขมร ข่าวการยึดอำนาจของพระยาสรรค์ได้ทราบถึงพระยาสุริยอภัย (หลานของสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) เจ้าเมืองนครราชสีมาก่อนพระสุริยอภัย จึงได้ยกกองทัพมาปราบปรามพระยาสรรค์ได้แล้ว ขังไว้พร้อมกับพวกก่อการ เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ซึ่งขณะนั้นกำลังปราบปรามการจลาจลอยู่ที่เขมร) ทราบข่าวความวุ่นวายทางกรุงธนบุรีจึงรีบยกทัพกลับ เมื่อถึงกรุงธนบุรีบรรดาข้าราชการและราษฎรทั้งหลายได้พากันอ่อนน้อม ยกย่องขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ได้มีการปรึกษาโทษของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในที่สุดจึงให้มีการสำเร็จโทษตามคำปรึกษาของข้าราชการ โดยนำไปประหารที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ แล้วรับสั่งให้เอาพระศพไปฝั่งไว้ที่วัดบางยี่เรือใต้ (วัดอินทราราม ปัจจุบัน) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชครองราชย์ ๑๕ ปี มีพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษา
ในวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้รับอัญเชิญขึ้นผ่านพิภพปราบดาภิเษกครองราชสมบัติ เริ่มต้นราชวงค์จักรี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เหตุการณ์ทุกอย่างเข้าสู่สภาพเดิม เจ้าเมืองต่าง ๆ ถูกโยกย้ายเปลี่ยนแปลงเพื่อความเข้มแข็ง ส่วนพระยาพิชัยดาบหัก (ขณะนั้นอายุได้ ๔๑ ปี) ได้รับกระแสพระราชดำรัสให้เข้าเฝ้าโดยด่วน เพื่อทรงต้องการทราบว่า ยังมีความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอยู่อย่างล้นพ้นไม่สามารถจะทำจิตใจให้เสื่อมคลายจากความสัตย์ที่มีอยู่เดิมนั้นได้ ถ้าหากจะอยู่รับราชการสนองพระเดชพระคุณในแผ่นดินต่อไปอีกไม่วันใดก็วันหนึ่งความผิดถึงแก่ชีวิตอาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะความจงรักภักดีอย่างท้วมท้นต่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยังฝังแน่นอยู่ในสำนึกตลอดเวลา จึงไม่สามารถจะอยู่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณได้ ขอตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงกราบบังคมทูลว่า ขอได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ขอได้ประหารชีวิตข้าพพุทธเจ้า แล้วให้นำศพไปฝังไว้ที่วัดราชคฤห์ และช่วยอุปการะบุตรชายให้ได้ทำราชการฉลองพระเดชพระคุณเพื่อสืบสกุลต่อไป พระยาพิชัยดาบหัก จึงถูกประหารชีวิตตามที่ต้องการ แล้วให้นำศพไปฝั่งไว้ที่วัดบางยี่เรือเหนือ (วัดราชคฤห์ ปัจจุบัน)
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
เวลา..วันที่..ขณะนี้...
"วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓๔ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด 14/05/2562 10:19:37