-
ยันพม่าอยู่ที่เมืองพิชัย
-
เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว
พระองค์ก็เสด็จกลับกรุงธนบุรี
แต่ก่อนที่จะทรงจากเมืองพิษณุโลก
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ตรัสเรียกพระยาพิชัย
(จ้อย หรือทองดี
ฟันขาว) ให้เข้าเฝ้าโดยเฉพาะ ทรงรับสั่งอาลัยในมหาดเล็กข้าหลวงเดิม
(จ้อย) ของพระองค์
แต่ครั้งยังดำรงรักษาการเมืองตากเป็นต้นมาและแล้วก็ได้เป็นคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขอาบเหงื่อต่างน้ำมาด้วยราชการสงคราม
ยังไม่เคยห่างไกลจากพระองค์แต่ครั้งเดียว
(จ้อยเป็นประดุจโล่คอยกำบังอาวุธนานาชนิดที่จะมาต้ององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)
ในครั้งนี้ต้องจากกันเพราะพระราชประสงค์จะให้จ้อยเป็นห้อมยันพม่าอยู่ที่เมืองพิชัยนี้
เพราะเมืองพิชัยเป็นเมืองหน้าด่าน
จึงต้องห่างไกลกันด้วย
-
ถึงแม้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจะมิได้ทรงแต่งตั้งพระยาพิชัย
(จ้อย หรือทองดี
ฟันขาว) เป็นชั้นเจ้าพระยา
แต่ก็ได้พระราชทานเครื่องยศให้เสมอด้วยเจ้าพระยา ส่วนนายบุญเกิดทหารคู่ใจที่คอยติดตามมารับใช้ประดุจเงาตามตัวของพระยาพิชัยนั้น
ก็ทรงพระเมตตาโปรดตั้งให้เป็น
หมื่นหาญณรงค์
นายทหารคนสนิทของพระยาพิชัยเจ้าเมืองพิชัย
-
เมื่อขึ้นครองเมืองพิชัยแล้ว
บุคคลที่พระยาพิชัยรีบถามถึงเป็นคนแรก
คือ บิดามารดาของท่าน
จึงได้ทราบข่าวบิดาถึงแก่กรรมแล้วคงเหลือแต่มารดา
จึงให้ทหารออกค้นหาติดตามจนพบแล้วพามารดามาพบ
มารดาพระยาพิชัยไม่ทราบว่าเป็นได้แก่ก้มหน้าตลอดเวลาเพราะความกลัว
จึงคลานเข้าไปกราบ แต่พระยาพิชัยรีบเข้าไปกราบมารดาเสียก่อน พร้อมกับเล่าเรื่องตั้งแต่ซัดเซพเนจรจากเมืองพิชัยจนได้เป็นเจ้าเมือง
มารดาร้องไห้ด้วยความดีใจ
ชาวเมืองพิชัยเรียกมารดาพระยาพิชัยว่า
แม่คุณใหญ่
-
พระยาพิชัยทราบว่าครูเที่ยงบ้านแก่ง
ครูเมฆบ้านท่าเสายังมีชีวิตอยู่
ท่านไปทำความเคารพเหมือนเมื่อครั้งอดีต
ครูเที่ยง ครูเมฆดีใจมาก
พระยาพิชัยจึงแต่งตั้งให้คุณครูของท่านทั้งสองเป็นกำนัน
-
ในเดือนยี่
ปี่ขาล พ.ศ.
๒๓๑๓ โปมะยุง่วน
(พม่า)
ซึ่งยึดครองเมืองใหม่อยู่ได้ยกมาตีสวรรคโลก
เจ้าพระยาพิชัยราชาเจ้าเมืองสวรรคโลก
จึงรีบแจ้งให้ทางธนบุรีเพื่อทรงทราบ
ในขณะเดียวกันนั้นกองทัพไทยทางเมืองพิชัย
พิษณุโลก และสุโขทัยก็ได้รีบยกไปช่วยสวรรคโลก
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงทราบจึงรีบเสด็จออกทัพหลวงมุ่งมายังเมืองสวรรคโลก
เพราะทรงเป็นห่วงหัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งกำลังจะตั้งตัวได้ใหม่
เมื่อเสด็จมาถึงเมืองนครสวรรค์ก็ทราบว่า
พระยาพิชัย (จ้อย
หรือทองดี ฟันขาว)
ได้ช่วยป้องกันเมืองสวรรคโลกไว้จนสุดความสามารถ
และทำการขับไล่พม่าแตกพ่ายไป
-
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่ได้เสด็จยกกองทัพกลับธนบุรี
แต่เสด็จขึ้นไปเมืองพิชัยทำให้พระยาพิชัย
(จ้อย หรือทองดี
ฟันขาว) ได้เข้าเฝ้าโดยใกล้ชิดอีกครั้งหนึ่ง
-
ในคราวนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเรียกกองทัพหัวเมืองต่าง
ๆ
ให้มารวมกันที่เมืองพิชัยแล้วเสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ด้วยทรงพระดำริเห็นว่ากำลังพม่าที่เชียงใหม่มีไม่มากนัก
ทางอังวะก็กำลังติดศึกกับจีนคงส่งกำลังมาช่วยไม่ได้
และพม่าก็กำลังแตกไปจากสวรรคโลกใหม่
ๆ กำลังครั่นคร้ามฝีมือไทย
ถ้าตีเมืองเชียงใหม่ไม่ได้ก็ยังจะเป็นประโยชน์ที่จะได้รับภูมิประเทศไว้
เพื่อจะตีอีกในครั้งต่อไป