พม่าแตกทัพ
พระยาพิชัยดาบหัก แม่ทัพหน้าของกองทัพหลวงได้ไว้ลายความเป็นชายชาติทหารอย่างดุเดือดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดาบคู่ในมือทั้งสองถูกกระชับไว้แน่นทั่วร่างคาดเชือกไว้พร้อมเหมือนนักฟันดาบที่กำลังก้าวขึ้นสู่เวทีประลองฝีมือ ท่านเดินออกหน้าทหารด้วยท่าทางทรนง องอาจ ท่านได้รับหน้าที่ให้เข้าล้อมเมืองลำพูนไว้ด้านหนึ่ง ท่านได้นำกำลังทหารเมืองพิชัย บุกตะลุยสู้กับแนวต้านทานข้าศึกอย่างนองเลือด กำลังของข้าศึกได้หนุนเนื่องมาละลอกแล้วละลอกเล่า แต่ได้ถูกกำลังทหารโดยการนำของพระยาพิชัยดาบหัก ฆ่าฟันล้มตายระเนระนาดแตกถอยกระเจิงไปอย่างไม่เป็นขบวน ในที่สุดกองกำลังทหารเมืองพิชัยก็เข้าประชิดติดกำแพงเมืองลำพูน ระดมยิงปะทะกับกำลังทหารพม่าที่ยึดเมืองลำพูนอย่างดุเดือด ได้แบ่งกำลังปีนกำแพงและทำลายประตูเมือง ในที่สุดก็สามารถบุกตะลุยเข้าสู่เมืองลำพูนได้ และทำการไล่ต้อนกำลังฝ่ายพม่าซึ่งขณะนั้นกำลังเริ่มเสียขวัญ เริ่มเกิดความโกลาหลอลหม่านขึ้น แม่ทัพพม่าได้รวบรวมกำลังของตนส่วนหนึ่ง ตีแหวกวงล้อมของกองทัพไทยหนีไปได้อย่างรวดเร็ว มุ่งสู่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นฐานทัพพม่ากองใหญ่ที่นั่น ดังนั้น เมืองลำพูนจึงตกเป็นของไทยเราอีก ในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๑๗
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้โปรดให้ประชาชนชาวลำพูน และบุคคลสำคัญในเมืองนี้ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีพระยาจ่าบ้าน พระยาลำพูน เป็นต้น ได้ทรงพระราชทานพระราโชวาทเกี่ยวกับนโยบายการปกครองเสร็จแล้ว จึงพระราชทานเสื้อผ้าเครื่องหมายยศตามบรรดาศักดิ์ของแต่ละคนยังความชื่นชมแก่บุคคลสำคัญของเมืองลำพูนโดยทั่วหน้ากัน
หลังจากได้ชัยชนะที่เมืองลำพูนเพียงวันเดียวเท่านั้น กองทัพไทยก็เคลื่อนกำลังด้วยความระมัดระวังมุ่งตีเมืองเชียงใหม่ให้ได้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงบัญชาให้แม่ทัพกองทัพหน้า คือ เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) และเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) นำกำลังเข้าล้อมและตีเมืองเชียงใหม่คนละด้าน ส่วนพระยาพิชัยดาบหักแม่ทัพของกองทัพหลวง ให้นำกำลังไปปิดเส้นทางติดต่อระหว่างเมืองเชียงใหม่กับกรุงอังวะ
ฝ่ายโปมะยุง่วนและโปสุพลา แม่ทัพพม่าได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอย่างไรเสียกองทัพไทยต้องมุ่งเข้าตีเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน จึงจัดกำลังป้องกันเมืองเชียงใหม่ไว้อย่างเข้มแข็ง เพราะเมืองเชียงใหม่เป็นที่มั่นแหล่งสุดท้ายที่จะอยู่ในผืนแผ่นดินไทยได้ต่อไปอีก แต่กำลังทหารพม่าส่วนใหญ่ล้วนแต่เคยแตกพ่ายเข็ดขยาดฝีมือทหารไทยแล้วทั้งสิ้น แม้จะได้รับการเร่งเร้าปลุกใจจากแม่ทัพใหญ่อยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่ความคร้ามเกรงกองทัพไทยก็ยังมีอยู่ในใจของทหารพม่า กองทัพไทยทุกด้านได้โถมกำลังเข้าประชิดกำแพงเมืองเชียงใหม่อย่างรวดเร็วเกิดการประจัญบานอย่างดุเดือดนองเลือด ทหารพม่าซึ่งขาดกำลังใจอยู่แล้ว เมื่อเห็นฝ่ายตนเริ่มจะเสียเปรียบจึงทิ้งหน้าที่หนีเอาตัวรอดมากขึ้นขณะ แม้จะถูกแม่ทัพนายกองฝ่ายพม่าไล่ต้อนให้สู้กับฝ่ายไทยแต่ก็ไร้ผล ในที่สุดเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ก็นำกองทัพไทยบุกเข้าทางประตูท่าแพ พม่าแตกพ่าย ไม่สามารถจะต้านทานกองทัพไทยได้ ฝ่ายพม่าถูกกำลังฝ่ายไทยรุกไล่ฆ่าฟันอยู่ไม่ขาดระยะ ทางด้านอื่นก็เช่นกัน เมืองเชียงใหม่จึงถูกฝ่ายไทยยึดได้โปมะยุง่วนและโปสุพลาตัดสินใจ พาไพร่พลและครอบครัวหนีกลับพม่า แต่ก็สายเกินไป เพราะบนเส้นทางระหว่างเชียงใหม่จะไปพม่า พระยาพิชัยดาบหักได้นำกำลังอันเกรียงไกรดักซุ่มคอยโจมตีอยู่แล้ว เมือโปมะยุง่วนและโปสุพลาพากำลังทหารมาถึง พระยาพิชัยดาบหักจึงให้สัญญาณฝ่ายไทยเช้าล้อมทหารพม่าไว้ทุกด้าน พร้อมกับบอกให้ฝ่ายพม่าวางอาวุธยอมจำนน เพราะฝ่ายไทยต้องการจับเป็น พม่าไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นอย่างนองเลือด ฝ่ายพม่าถูกทหารฝ่ายไทยฆ่าตายลงอีกเป็นจำนวนมาก ที่เหลือหนีกลับพม่าก็มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น การต้อสู้ครั้งนี้ พม่าล้มตายมากกว่าครั้งใด ๆ ศพพม่าถูกฆ่าตายเกลื่อนกลาดระเนระนาดเฉพาะที่ประตูช้างเผือกแห่งเดียวเท่านั้น ก็มีจำนวนถึง ๒๐๐ กว่าศพ จึงเป็นอันว่าหัวเมืองฝ่ายเหนือได้ตกเป็นของไทยตั้งแต่บัดนั้น ได้ทรงพระราชทานบรรดาศักดิ์แก่แม่ทัพนายกองโดยทั่วถึงกัน โปรดฯ ให้พระยาจ่าบ้านถือราชอาญาสิทธิ์เป็นพระยาวิเชียรปราการ อยู่ครองเมืองเชียงใหม่ ด้วยเกรงว่าพม่าจะยกมารุกรานอีก
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
เวลา..วันที่..ขณะนี้...
"วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓๔ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลครั้งหลังสุด 14/05/2562 10:18:54